Basic Barista & Latte Art Course
คอร์สศิลปะการทำกาแฟ (Barista) ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการเป็นมืออาชีพมากขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประกอบธุรกิจร้านกาแฟ หรือผู้ที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นบาริสต้ามืออาชีพ มุ่งเน้นถ่ายทอดเนื้อหา เทคนิควิธีการชงกาแฟ พร้อมหัวใจสำคัญที่จะทำให้ได้กาแฟเอสเพรสโซ่คุณภาพดี เพื่อการทำเครื่องดื่มกาแฟประเภทต่าง ๆ
Basic Barista Course
รายละเอียด
- เรียนรู้สายพันธุ์กาแฟที่ส่งผลต่อรสชาติกาแฟ Arabica VS Robusta ชิมความแตกต่าง
- เรียนรู้กาแฟ process ต่างๆ (wash/natural/honey)
- Coffee Region/coffee belt/กาแฟแต่ละทวีป
- Roasting Process การคั่วแต่ละชนิด
- เรียนรู้เรื่องอุปกรณ์ในบาร์กาแฟทั้งหมด
- การสกัด Espresso อย่างถูกวิธี
- การสตรีมนมตามมาตราฐานและอุณภูมิที่เหมาะสมสำหรับการชงเมนูร้อนอีกทั้งเพื่อให้ได้ฟองนมที่มีคุณภาพ
- การเท Latte Art เบื้องต้น
- เมนูร้อนและเย็นเบื้องต้น
- การสร้างสรรค์เมนูด้วยตัวเอง
- การดูแลรักษาอุปกรณ์และเครื่องชงกาแฟ
- วิธีการคำนวนต้นทุนของเครื่องดื่ม
- การหาจุดคุ้มทุน Break even point ทางธุรกิจ
- สรุปเนื้อหาการเรียน และรับใบประกาศ
Basic Latte Art
รายละเอียด
- การสตรีมนมที่ถูกต้อง และอุณภูมิต่างๆ ที่มีผลต่อการเทลาเต้อาร์ท เช่นกรณีที่ฟองนมหนาหรือบางเกินไปมีผลกับการเทอย่างไรบ้าง
- การใช้เครื่องชงกาแฟและอุปกรณ์ต่างๆในบาร์
- เทคนิคการสกัดช็อตกาแฟให้เหมาะสมกับการเท
- ท่าการจับเหยือก จับแบบไหนเพื่อให้ตรงตามความถนัดของตัวเอง
- แก้วแบบไหนที่เหมาะสำหรับการเทลาเต้อาร์ต
- การจับแก้ว องศาการเท เอียงเยอะไปหรือเอียงน้อย ไปมีผลอย่างไร
- การ Mix นมเข้ากับกาแฟ เพื่อลายที่เด่นชัด (Contrast)
- การเลือกใช้พิชเชอร์ที่ถูกประเภท ปากพิชเชอร์แต่ละทรงมีผลอย่างไร
- องศาการยืนที่ถูกต้อง
- อายุของเมล็ดกาแฟมีผลอย่างไร เช่น คั่วใหม่หรือคั่วนานแล้ว
รายละเอียดการเรียน
• ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกาแฟ และโปรเซสต่างๆ
• การเลือกใช้เมล็ดกาแฟ ตามระดับการคั่ว
• ปัจจัยต่างๆที่มีผลต่อการสกัดช็อต Espresso
• หลักการสตีมนมที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ฟองนมที่มีคุณภาพ
• การปรับความละเอียดเครื่องบดกาแฟ
• การตั้งระดับน้ำเครื่องชงกาแฟให้เหมาะสม
• สอนชงกาแฟตามเมนูสากล และเมนูร้อน เย็น ปั่นอื่นๆ
• นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติ ชิม และวิเคราะห์เองทั้งหมด
• สอนการเทลาเต้อาร์ต ลายหัวใจ ทิวลิป โรเซ็ตต้า
• การล้างเครื่อง และบำรุงรักษาเครื่องชง เครื่องบด
• การคำนวณต้นทุน และสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเปิดร้าน
พัทลุง เป็นจังหวัดในภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 860 กิโลเมตร มีจังหวัดที่อยู่ติดกันได้แก่ นครศรีธรรมราช ตรัง สตูล สงขลา และมีพื้นที่ด้านตะวันออกของจังหวัดจรดทะเลสาบสงขลา
ในอดีต พัทลุงเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่แห่งหนึ่ง และยังมีสภาพภูมิประเทศทั้งที่ราบ เนินเขา และชายฝั่ง โดยทางทิศตะวันตกของจังหวัด จะเป็นพื้นที่ที่ราบสูงและที่ราบเชิงเขา อันเนื่องมาจากมีพื้นที่ติดต่อกับทิวเขานครศรีธรรมราช ถัดลงมาทางตอนกลางและทางทิศตะวันออกของจังหวัด จรดทะเลสาบสงขลาจะเป็นที่ราบลุ่ม เหมาะแก่การทำการเกษตรกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำนาข้าว ชาวภาคใต้จะเรียกจังหวัดนี้ว่า "เมืองลุง"
ประวัติ
พัทลุงเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ของประเทศไทย ที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ดังปรากฏหลักฐานจากการค้นพบขวานหินขัดในท้องที่ทั่วไปหลายอำเภอในสมัยศรีวิชัย (พุทธศตวรรษที่ 13–14) บริเวณเมืองพัทลุงเป็นแหล่งที่ได้รับวัฒนธรรมอินเดียในด้านพระพุทธศาสนาลัทธิมหายาน มีหลักฐานค้นพบ เช่น พระพิมพ์ดินดิบจำนวนมากเป็นรูปพระโพธิสัตว์ รูปเทวดาโดยค้นพบบริเวณถ้ำคูหาสวรรค์ และถ้ำเขาอกทะลุ
ในพุทธศตวรรษที่ 19 เมืองพัทลุงได้ตั้งขึ้นอย่างมั่นคงภายใต้การปกครองของกรุงศรีอยุธยา ในสมัยพระบรมไตรโลกนาถ ได้ปรากฏชื่อเมืองพัทลุง ในกฎหมายพระอัยการนาทหารหัวเมือง พ.ศ. 1998 ระบุว่าเมืองพัทลุงมีฐานะเป็นเมืองชั้นตรี ซึ่งนับได้ว่าเป็นหัวเมืองหนึ่งของพระราชอาณาจักรทางใต้ ที่ตั้งเมืองพัทลุงในระยะเริ่มแรกนั้นเชื่อกันว่า ตั้งอยู่ที่เมืองสทิงพระ จังหวัดสงขลาในปัจจุบัน มักจะประสบปัญหาโดนโจมตีจากกลุ่มโจรสลัดมลายูอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มโจรสลัดราแจะอารูและอุยงคตนะ ได้เข้าปล้นสดมภ์โจมตีเผาทำลายเมืองอยู่เนือง ๆ
ในรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรม ด๊ะโต๊ะโมกอล ชาวมุสลิมที่อพยพมาจากเมืองสาเลห์ บริเวณหมู่เกาะชวา ซึ่งเป็นต้นตระกูลของสุลต่านสุไลมาน แห่งเมืองสงขลาได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานค้าขาย ณ หัวเขาแดง แล้วตั้งประชาคมมุสลิมขึ้น ตรงนั้นอย่างสงบ ไม่มีการขัดแย้งกับชาวเมืองที่อยู่มาก่อน ปักหลักอยู่ยาวนานจนมีผู้คนอพยพมาอาศัยอยู่มากขึ้นในที่สุดก็พัฒนาขึ้นมาเป็นเมืองท่าปลอดภาษี มีเรือสำเภาแวะเข้ามาซื้อ
บทบาทของดะโต๊ะโมกอลได้รับการสนับสนุนจากอาณาจักรศรีอยุธยาด้วยดี พระเจ้าทรงธรรมโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็น "ข้าหลวงใหญ่" ผู้ดำรงตำแหน่งนี้ต่อมาคือท่านสุไลมานบุตรชายคนโต มีหน้าที่ปกครองดูแลรักษาความสงบของพื้นที่ตั้งแต่ตอนล่างของนครศรีธรรมราช มาจดเขตปัตตานี ครอบคลุมครึ่งล่างของเมืองตรัง ปะเหลียน พัทลุง และสงขลา นอกจากนี้ก็ต้องเก็บส่วยสาอากรส่งถวายพระเจ้าแผ่นดินที่กรุงศรีอยุธยา ท่านสุไลมานก็ได้ทำหน้าที่นี้เรียบร้อยด้วยดีมาตลอด ต่อมาได้ย้ายเมืองสงขลาจากสทิงพระมายังหัวเขาแดงซึ่งมีชัยภูมิป้องกันตนเองได้ดีกว่า
ในสมัยสุลต่านสุไลมาน บุตรของดะโต๊ะโมกอล ได้ส่ง ฟาริซีน้องชายซึ่งเป็นปลัดเมืองมาสร้างเมืองใหม่ที่เขาชัยบุรี เพื่อป้องกันศัตรูที่จะมาโจมตีเมืองสงขลาทางบก ภายหลังได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นเจ้าเมืองพัทลุง และได้ย้ายเมืองพัทลุงออกจากเมืองสงขลาตั้งแต่นั้น และตั้งเมืองอยู่ที่เขาชัยบุรีตลอดมาจนกระทั่งสิ้นกรุงศรีอยุธยาเมื่อปี พ.ศ. 2310
ในสมัยธนบุรีและรัตนโกสินทร์ ได้มีการย้ายสถานที่ตั้งเมืองอีกหลายครั้งและได้ยกขึ้นเป็นเมืองชั้นโทในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ในช่วงนี้เมืองพัทลุงมีผู้นำที่มีความสำคัญในการสร้างความเจริญและความมั่นคงให้กับบ้านเมืองหลายท่าน อาทิ พระยาพัทลุง (ขุนคางเหล็ก) พระยาวิชิตเสนา (ทองขาว)พระยาอภัยบริรักษ์ (จุ้ย จันทร์โรจน์วงศ์) ส่วนประชาชนชาวเมืองพัทลุงก็ได้มีบทบาทในการร่วมมือกับผู้นำ ต่อสู้ป้องกันเอกราชของชาติมาหลายครั้ง เช่น เมื่อสงครามเก้าทัพ (พ.ศ. 2328 – 2329) พม่าจัดกองทัพใหญ่ 9 ทัพ 1 ใน 9 ทัพ มีเกงหวุ่นแมงยีเป็นแม่ทัพ ยกลงมาตีทางใต้ ตีได้เมืองกระบุรี ระนอง ชุมพร ไชยา และนครศรีธรรมราชตามลำดับ และในขณะที่กำลังจัดไพร่พลอยู่ที่นครศรีธรรมราช เพื่อจะยกมาตีเมืองพัทลุงและสงขลานั้น พระยาพัทลุงโดยความร่วมมือจากพระมหาช่วยแห่งวัดป่าลิไลยก์ ได้รวบรวมชาวพัทลุงประมาณ 1,000 คน ยกออกไปตั้งขัดตาทัพที่คลองท่าเสม็ด จนกระทั่งทัพของสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท วังหน้าในรัชกาลที่ 1 ทรงยกกองทัพมาช่วยหัวเมืองปักษ์ใต้ ตีทัพพม่าแตกหนีไป พระมหาช่วยได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ลาสิกขาแล้วแต่งตั้งเป็นพระยาทุกขราษฎร์ช่วยราชการเมืองพัทลุง นอกจากสงครามกับพม่าแล้วชาวพัทลุงยังมีบทบาทสำคัญในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติในหัวเมืองภาคใต้ เพราะปรากฏอยู่เสมอว่าทางเมืองหลวงได้มีคำสั่งให้เกณฑ์ชาวพัทลุง พร้อมด้วยเสบียงอาหารไปทำสงครามปราบปรามกบฏในหัวเมืองมลายูเช่น กบฏไทรบุรี พ.ศ. 2373 และ พ.ศ. 2381 ซึ่งบทบาทดังกล่าวนี้สะท้อนให้เห็นความสำคัญของเมืองพัทลุง ทางด้านการเมือง การปกครองในอดีตเป็นอย่างดี
ครั้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ปฏิรูปการปกครองเป็นแบบเทศาภิบาลใน พ.ศ. 2437 และได้ประกาศจัดตั้งมณฑลนครศรีธรรมราชขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2439 ประกอบด้วยเมืองต่างๆ คือ นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา และหัวเมืองทั้ง 7 ที่เป็นเมืองปัตตานีเดิม สำหรับเมืองพัทลุงแบ่งการปกครองออกเป็น 3 อำเภอ คืออำเภอกลางเมือง อำเภออุดร และอำเภอทักษิณ ขณะนั้นตัวเมืองตั้งอยู่ที่ตำบลลำปำ จนกระทั่ง พ.ศ. 2467 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายเมืองพัทลุงมาอยู่ที่ตำบลคูหาสวรรค์ในปัจจุบัน เพื่อจะได้อยู่ใกล้เส้นทางรถไฟ และสะดวกในด้านติดต่อกับเมืองต่างๆ
จากอดีตถึงปัจจุบัน เมืองพัทลุงได้มีการย้ายเมืองหลายครั้งสถานที่เคยเป็นที่ตั้งเมืองพัทลุงมาแล้ว ได้แก่
1.โคกเมืองแก้ว ปัจจุบัน หมู่ที่ 4 ตำบลจองถนน อำเภอเขาชัยสน 2.บ้านควนแร่ ปัจจุบัน หมู่ที่ 1 ตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมืองพัทลุง 3.เขาชัยบุรี(เขาเมือง) ปัจจุบัน เขต 3 ตำบล คือตำบลชัยบุรี อำเภอเมืองพัทลุง 4.ท่าเสม็ด ปัจจุบัน ตำบลท่าเสม็ด อำเภอชะอวด จ.นครศรีธรรมราช 5.เมืองพระรถ ปัจจุบัน หมู่ที่ 1 ตำบลควนมะพร้าว อ.เมืองพัทลุง 6.บ้านควนมะพร้าว ปัจจุบัน หมู่ที่ 2 ตำบลพญาขัน อ.เมืองพัทลุง 7.บ้านม่วง ปัจจุบัน หมู่ที่ 2 ตำบลพญาขัน อ.เมืองพัทลุง 8.บ้านโคกสูง ปัจจุบัน หมู่ที่ 4 ตำบลลำปำ อ.เมืองพัทลุง
ในปี พ.ศ. 2476 ได้มีการจัดระเบียบบริหารส่วนภูมิภาคเป็นจังหวัดและอำเภอ ได้ยกเลิกการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล ทำให้เมืองพัทลุงมีฐานะเป็นจังหวัดหนึ่ง ในปัจจุบันจังหวัดพัทลุง แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 11 อำเภอ คือ อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอควนขนุน อำเภอเขาชัยสน อำเภอปากพะยูน อำเภอกงหราอำเภอตะโหมด อำเภอป่าบอน อำเภอศรีบรรพต อำเภอป่าพะยอม อำเภอบางแก้ว และอำเภอศรีนครินทร์
ที่ตั้ง
จังหวัดพัทลุง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของภาคใต้ของประเทศไทย ระหว่างละติจูดที่ 7 องศา 6 ลิปดาเหนือถึง 7 องศา 53 ลิปดาเหนือ และลองจิจูดที่ 100 องศา 5 ลิปดาตะวันออก ห่างจากกรุงเทพมหานครตามเส้นทางสายเอเชีย (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41) เป็นระยะทางประมาณ 858 กิโลเมตร และตามเส้นทางรถไฟ ระยะทางประมาณ 846 กิโลเมตร ความยาวของจังหวัดจากทิศเหนือไปทิศใต้ประมาณ 78 กิโลเมตรและความกว้างจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก ระยะทางประมาณ 53 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 3,424.473 ตารางกิโลเมตร หรือ 2,140,296 ไร่ (พื้นดิน 1,919,446 ไร่ พื้นน้ำ 220,850 ไร่) มีเขาที่สูงที่สุดคือเขาเจ็ดยอด อยู่ในเทือกเขาบรรทัด สูงประมาณ 1,260 เมตร
มีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้
- ทิศเหนือติดต่อกับจังหวัดนครศรีธรรมราช
- ทิศใต้ติดต่อกับจังหวัดสตูลและจังหวัดสงขลา
- ทิศตะวันออกติดต่อกับทะเลสาบสงขลาซึ่งเป็นน่านน้ำติดต่อกับจังหวัดสงขลา
- ทิศตะวันตกติดต่อกับทิวเขาบรรทัด ซึ่งเป็นแนวติดต่อกับจังหวัดตรัง
การปกครองแบ่งออกเป็น 11 อำเภอ 65 ตำบล 626 หมู่บ้าน
อำเภอเมืองพัทลุง
อำเภอกงหรา
อำเภอเขาชัยสน
อำเภอตะโหมด
อำเภอควนขนุน
อำเภอปากพะยูน
อำเภอศรีบรรพต
อำเภอป่าบอน
อำเภอบางแก้ว
อำเภอป่าพะยอม
อำเภอศรีนครินทร์
จดทะเบียนบริษัทกับเราวันนี้
เว็บไซต์บริษัท, หน่วยงาน ราคาพิเศษ
ฟรี! อบรมบัญชี และภาษี
ฟรี! อีเมลภายใต้ชื่อโดเมน
*** โปรดสอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติม 083 622 5555
บริการด้านอื่นๆของเรา
- ให้คำปรึกษาปัญหาภาษีอากร
- ให้คำปรึกษา ปัญหาด้านกฎหมาย
- ให้คำปรึกษา ด้านแหล่งเงินทุน การเขียนโครงการเพื่อยื่นกู้
- ให้คำแนะนำวิธีการบัญชี เพื่อผลด้านภาษีอากรที่ดีและถูกต้อง
- ให้คำแนะนำระบบบัญชี เอกสารเบื้องต้นที่จำเป็นในการบันทึกบัญชี
- ให้คำปรึกษา ด้านการตลาดทั่วไปและตลาดออนไลน์ วิเคราะห์คู่แข่งทางการค้า
- ให้คำปรึกษา เรื่องเอกสารการออกบิล การทำสต๊อกสินค้า การจัดเก็บเอกสาร
- ให้คำปรึกษา ด้านทำเล จัดหาที่จดตั้งบริษัท รับแฟ็ก ส่งเอกสาร วางบิล เก็บเช็ค
ดื่มเพื่อความสำเร็จที่ "Chonlatee Coffee"
Chonlatee Coffee Service
- รับติดตั้งระบบร้านกาแฟ
- รับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกิจการร้านกาแฟ
- บริการกาแฟสดนอกสถานที่
- รับผลิตเมล็ดกาแฟ (OEM)
ธุรกรรมของคุณ
- จดทะเบียนบริษัท-ห้างหุ้นส่วน
- จัดทำ-วางระบบบัญชี
- ปิดงบการเงิน
- ขอใบอนุญาต
- ที่ปรึกษาทางธุรกิจ
chonlatee coffee
3/1 และ 3/2 ซอยรามคำแหง 164 แยก 3 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม.10510
Mobile : 062-632-5555, 061-938-5555, 062-938-5555
Line : @chonlateecoffee
CoffeeDriveThru : @chonlateedrivethru
Setup Coffee Shop : @chonlateecoffeesetup
E-mail : [email protected]